บทความ >> Switch Virtual Interface คืออะไร❓ มีประโยชน์กับระบบเครือข่ายอย่างไร❓
   
 
Switch Virtual Interface คืออะไร❓ มีประโยชน์กับระบบเครือข่ายอย่างไร❓

Switch Virtual Interface (SVI) คืออินเทอร์เฟซเสมือนที่ทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ของแต่ละ VLAN บนอุปกรณ์ Layer 3 Switch หรือ Multilayer Switch ซึ่งช่วยให้สามารถสื่อสารระหว่าง VLANs ได้โดยไม่ต้องใช้เราเตอร์แยกต่างหาก

โดยปกติ Switch Layer 2 จะทำหน้าที่สวิตช์แพ็กเก็ตภายใน VLAN เดียวกัน แต่ไม่สามารถส่งแพ็กเก็ตระหว่าง VLAN ได้โดยตรง ดังนั้นหากต้องการให้ VLANs สามารถสื่อสารกันได้ จะต้องใช้ Layer 3 Switch ที่รองรับ SVI

SVI ทำงานอย่างไร❓

  1. สร้าง VLAN – ผู้ดูแลระบบจะกำหนดหมายเลข VLAN และกำหนดพอร์ตให้ VLAN นั้น
  2. สร้าง SVI – กำหนด IP Address ให้กับ SVI เพื่อให้ VLAN นั้นมีอินเทอร์เฟซสำหรับการสื่อสาร
  3. เปิดใช้งานการ Routing ระหว่าง VLAN – ถ้าต้องการให้ VLANs สื่อสารกันต้องเปิดฟังก์ชัน IP Routing บน Layer 3 Switch

ประโยชน์ของ SVI ในระบบเครือข่าย
1. ช่วยให้ VLAN สามารถสื่อสารกันได้
✅ โดยไม่ต้องใช้ Router ภายนอก (ลดค่าใช้จ่ายและลดความซับซ้อน)

2. ลดภาระของ Router
✅ Router แบบดั้งเดิมอาจมีข้อจำกัดด้านพอร์ตและประสิทธิภาพ แต่ SVI บน Layer 3 Switch ช่วยกระจายโหลดและทำงานได้เร็วขึ้น

3. รองรับการทำ Inter-VLAN Routing อย่างรวดเร็ว
✅ เนื่องจากการประมวลผลเกิดขึ้นภายใน Switch โดยตรง (ใช้ ASIC Hardware) ทำให้ความเร็วสูงกว่า Router ทั่วไปที่ใช้ CPU ในการประมวลผล

4. รองรับฟีเจอร์การจัดการเครือข่ายที่ดีขึ้น
✅ สามารถใช้ร่วมกับ Dynamic Routing Protocols (เช่น OSPF, EIGRP) และมีฟังก์ชัน Security เช่น VLAN Access Control List (VACL)

สรุปสุดท้าย

Switch Virtual Interface (SVI) เป็นฟังก์ชันบน Layer 3 Switch ที่ช่วยให้เครือข่ายสามารถทำงานข้าม VLAN ได้โดยไม่ต้องใช้ Router เพิ่มเติม ช่วยให้การทำ Inter-VLAN Routing มีความรวดเร็ว ลดภาระของอุปกรณ์เครือข่าย และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายโดยรวม ถ้าต้องการสร้างเครือข่ายที่รองรับ VLAN และมีการสื่อสารระหว่าง VLAN ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ SVI บน Layer 3 Switch เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด‼