Failover Cluster คือกลุ่มของเซิร์ฟเวอร์ (Server) หลายตัวที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าระบบ และแอปพลิเคชันยังคงทำงานต่อไปได้แม้ว่าจะมีเครื่องใดเครื่องหนึ่งล่ม (Fail) หรือขัดข้อง โดย Failover Cluster จะมีระบบที่สามารถสลับการทำงาน (Failover) ไปยังเครื่องที่ยังทำงานได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ระบบมีความเสถียรและลดเวลา Downtime ให้น้อยที่สุด

หลักการทำงานของ Failover Cluster

1. มีเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องใน Cluster

• Failover Cluster ประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์หลายตัวที่เชื่อมต่อกัน ทำงานร่วมกันเป็นระบบเดียวกัน
  
• แต่ละเครื่องใน Cluster เรียกว่า Node (โหนด)

2. มีระบบตรวจสอบสถานะ (Heartbeat Monitoring)

• ระบบจะตรวจสอบสถานะของแต่ละ Node ตลอดเวลา
  
• หากพบว่า Node ใดล้มเหลว ระบบจะทำการ Failover ไปยัง Node อื่นโดยอัตโนมัติ

3. มีการแชร์ข้อมูลและทรัพยากรร่วมกัน

• ใช้ Shared Storage เช่น SAN, iSCSI หรือ Clustered File System เพื่อให้ทุก Node เข้าถึงข้อมูลกลางร่วมกัน
• ทำให้เมื่อเกิด Failover ข้อมูลยังคงอยู่และสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ของ Failover Cluster ต่อระบบ Server

1. ลด Downtime และเพิ่มความเสถียรของระบบ

• เมื่อมีเครื่องใดเครื่องหนึ่งล่ม ระบบจะสลับไปใช้เครื่องอื่นทันที ทำให้แอปพลิเคชันและบริการต่างๆ ยังคงทำงานต่อไปได้
  
• ลดปัญหาการหยุดชะงักของระบบ (System Downtime)

2. รองรับการบำรุงรักษาโดยไม่ต้องหยุดระบบ

• สามารถอัปเดตหรือซ่อมบำรุงเครื่องใดเครื่องหนึ่งได้โดยไม่กระทบกับการทำงานของระบบทั้งหมด

3. เพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบ (High Availability - HA)

• ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบที่ต้องการความพร้อมใช้งานสูง เช่น ธนาคาร, ระบบอีคอมเมิร์ซ, หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการลูกค้าจำนวนมาก

4. รองรับการขยายระบบ (Scalability)

• สามารถเพิ่ม Node ใหม่เข้าไปใน Cluster ได้ง่าย เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างการใช้งาน Failover Cluster

✅ Database Server เช่น Microsoft SQL Server, MySQL, PostgreSQL
✅ Web Server เช่น Apache, Nginx ที่ต้องรองรับผู้ใช้จำนวนมาก
✅ Email Server เพื่อให้บริการอีเมลมีความต่อเนื่อง
✅ Virtual Machine Cluster เช่น VMware vSphere หรือ Microsoft Hyper-V Cluster